วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ส่งท้าย


5月16日(火)
ส่งท้าย

   เราลงวิชานี้เพราะคิดว่าเป็นวิชาต่อจาก Jp ling เมื่อเทอมก่อน ก็คิดว่าน่าจะเรียนเหมือนเทอมที่แล้วแต่แค่ลึกขึ้น อะไรประมาณนั้น


   จนได้มานั่งอยู่ในคาบแรกนั่นแหละถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่เลย




   รีวิวจากพี่ที่เคยเรียนล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าวิชานี้คือ "วิชาเขียนบล็อก" ซึ่งก็เป็นตามนั้นจริงๆ แต่จะว่าเขียนบล็อกก็ไม่ถูก เพราะเนื้อหาของบล็อกก็คือสิ่งที่ได้เรียนได้ทำในคาบ แค่เปลี่ยนจากการเขียนวิเคราะห์ตัวเองส่งครูเป็นแผ่นๆ หรือเป็นรูปเล่มรายงาน เป็นการเขียนลงบล็อกเท่านั้นเอง

   เอาจริงๆ มันเป็นวิชาที่ดีและมีประโยชน์สำหรับการไปแลกเปลี่ยนมากๆ นะ เพราะในทุกคาบสัดส่วนการเรียนคือ input 30% และ output 70% พูดง่ายๆ คือฝึกปฏิบัติล้วนๆ

   タスク ที่คิดว่าได้พัฒนามากที่สุดคือที่เกี่ยวกับการเขียน ทั้ง 説明文 และ 空想文 เพราะรู้สึกว่ามันต่างจากวิชา writing ที่เรียนมาตั้งแต่ปีสองนิดหน่อย เป็นการเขียนที่ไม่เคยเขียนมาก่อน และที่สำคัญคือไม่มีการชี้แนะใดๆ ก่อน ลงมือเขียนก่อนเลย แล้วค่อยขัดเกลาไปเรื่อยๆ 

   タスク พูดก็ทำเยอะเหมือนกัน แต่อันนี้ฝึกมาตั้งแต่คอนเวอร์ปีหนึ่ง ก็เหมือนได้ฝึกมากขึ้น (โดยเฉพาะเรื่องข้อดีข้อเสียตัวเอง มีทั้งในคาบนี้ คาบไรท์ และคาบคอนเวอร์พร้อมๆ กัน เหมือนได้ทำซ้ำกันสามรอบ)

   สิ่งที่ทำให้รู้สึกถึงพัฒนาการ (ทั้งขึ้นและลง) ของตัวเองก็คือการเขียนบล็อกนี่แหละ ปกติแล้วถ้าแค่รับฟีดแบ็คจากอาจารย์ อายแป๊บเดียวก็ลืม แต่พอต้องมาเขียนทุกอาทิตย์ๆ มันก็ทำให้ความอายนั้นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น (ฮา) อายยังไง อายทำไม อายแล้วยังไงต่อ ก็ต้องจับความคิดความเข้าใจเหล่านั้นมาเขียนให้เป็นรูปธรรม ก็เหมือนทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้นนิดหนึ่ง เข้าหลักการที่ว่า "เจ็บจนกว่าะจำ"

   พอมาไล่ย้อนดูการเขียนบล็อก จะเห็นว่าบล็อกเรายาวขึ้นเรื่อยๆ 内省 ครั้งแรกเขียนนิดเดียวเพราะกลัวเงื่อนไขที่ว่า "ต้องอ่านจบได้ในสามถึงห้านาที" แต่พอไปอ่านบล็อกของเพื่อนๆ พี่ๆ ก็พบว่าคนอื่นเขียนยาวมาก ละเอียดมากกกกก อ่านแล้วเข้าใจ มีสาระกว่าของเราเยอะ เลยเริ่มเขียนละเอียดขึ้นเรื่อยๆ

   แต่ความจริงแล้วที่บล็อกเรายาว ส่วนหนึ่งเพราะเราจะใส่รูปคั่นเยอะ เป็นคนไม่ชอบอ่านอะไรติดกันเป็นพรืด เลยใส่รูปคั่นไว้เป็นพักๆ หรือบางอันก็ใช้ภาพเล่าเรื่องแทน (อย่างเฮียวกะ) ดังนั้นตัวเนื้อหาจริงๆ ก็ไม่ได้ยาวขนาดนั้น...

   แต่ก็จะไม่ปฏิเสธว่าวิชานี้มันหนัก ในคาบคุณต้องเป็น active learner (ข้อนี้อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ขอโทษค่ะ ฮือ) อย่างน้อยต้องพูด ต้องเขียน ต้องร่วมกิจกรรม กลับบ้านไปก็ต้องทำการบ้านและเขียนบล็อกส่งแทบทุกอาทิตย์ (บางอาทิตย์หลายงานด้วย) บวกกับวิชาอื่นๆ ในปีสามแล้วมันทั้งหนักทั้งเหนื่อยจนลงวิชาอื่นเพิ่มไม่ได้เลยทีเดียว (อันนี้ก็แล้วแต่คนนะ) บางทีถ้ามีเวลาเยอะๆ อาจจะเรียนสนุกกว่านี้ ทุ่มเทกับงานได้มากกว่านี้

   โดยสรุปแล้ว คิดว่าวิชานี้เป็นวิชาที่เหนื่อย แต่สนุก และได้ติดตามตัวเองแบบเรียลไทม์สำหรับคนที่ยังลังเลว่าจะลงดีไหมก็ขอแนะนำว่า "ลองดู เดี๋ยวก็รู้ว่าไหวไม่ไหว" เอาจริงๆ ทุกวิชาก็หนักหมดนั่นแหละ แค่หนักคนละแบบกัน ยิ่งถ้าใครพอจะมีเวลา คิดว่าเรียนไหว ทำงานไหวก็แนะนำให้ลงนะคะ

   ยังไงซะ พวกเราปีนี้ก็รอดมาได้ทุกคนค่ะ (笑)





プリム

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณที่เขียนสรุปมาให้อย่างดี ชอบประโยคว่า "เจ็บจนกว่าจะจำ" ซึ่งจริงเลย กว่าจะได้อะไรมา(กว่าจะเรียนรู้ได้)ต้องใช้เวลาและพลังจริงๆนะคะ แต่หวังว่าคงจะคุ้มค่า ครูเพิ่งได้ทราบว่าพวกเราหลายคนเขียนนวนิยายเก่งมาก รู้สึกประทับใจค่ะ

    ตอบลบ