วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2560

氷菓ศึกษา ーいいえ。もう春ですー


1月28日(日)
氷菓ศึกษา ーいいえ。もう春ですー

   อย่างที่ได้เกริ่นไปใน 目標 แล้วว่าเราชอบหนังสือชุด 氷菓 นี้มาก ด้วยความอัดแน่นและเฉียบคมของเนื้อหา แต่ด้วยความที่มันคมเกิ๊น สำหรับผู้เรียนต่างชาติตาดำๆ เลยออกจะสาหัสไปสักหน่อย แทบจะต้องเปิดดิกคำเว้นคำเลยทีเดียว

   สำหรับประเด็นศึกษาครั้งแรกสุดนี้คือ ประโยคสุดท้ายของเล่มสี่ (遠まわりする雛)หรือฉากสุดท้ายของอนิเมะค่ะ

   ...ใช่ค่ะ มันคือตอนจบ และคงเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่องแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราคาใจกับประโยคสุดท้ายนี้มากจนอยากจะหยิบมาเป็นประเด็นศึกษาแรก ยังไงก็ต้องขออภัยล่วงหน้าสำหรับคนที่ยังไม่เคยดูและคิดจะดูด้วยนะคะ



*・゜゚・*:.。..。.:*・☆*:.。..。.:*☆・*:.。. .。.:*・゜゚・*


   ก่อนอื่นขอแนะนำตัวละครเล็กน้อย เพราะต่อจากนี้จะขอเรียกชื่อตัวละครค่ะ ถ้าจะให้เรียกพระเอก นางเอก เพื่อนพระเอกนางเอกไปนานๆ เข้าเดี๋ยวจะงงว่าใครเป็นใครได้

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiJuxOjP8yEDgsTYg2I4w1JCn8Va7ppVMADSaPoZMfR0kJUPXfpnuDwhu1BvchUwSFx8-Jj7BDDve0LLKdkx85x9lBFKcs17NiHbbFTPHpRraE19_b-iXmrNpZ2a7GnDryYwO2Z1Rw27PI/s1600/
hyouka_dark_short_hair_long_green_eyes_eru_hd-wallpaper-1910602.jpg

   ตัวละครหลักในเรื่องนี้มีสี่คนตามในภาพค่ะ เริ่มจากสองคนที่อยู่ข้างหน้าคือคู่หลักของเรื่อง เรื่องนี้ดำเนินจากมุมมองของผู้ชายผมดำด้านหน้าค่ะ ชื่อโอเรกิ โฮทาโร่ (折木 奉太郎)เป็นคนที่พยายามประหยัดพลังงานตลอดเวลา เลยจะเป็นคนเอื่อยๆ เฉื่อยๆ แต่ไหวพริบดี เวลามีปริศนาอะไรก็มักจะคิดออกเสมอ คนซ้ายสุดชื่อจิทันดะ เอรุ (千反田 える)เป็นคนขี้สงสัยไปซะทุกอย่างและรับบทหาเรื่องมาให้พระเอกไขข้อข้องใจอยู่ตลอด

   ที่อยู่ข้างหลังอีกสองคนคือคู่รองค่ะ ผู้ชายทางขวาชื่อฟุคุเบะ ซาโตชิ (福部 里志)และคนทางขวาสุดคืออิบาระ มายากะ(伊原 摩耶花)ทั้งคู่จบม.ต้นที่เดียวกับโฮทาโร่

    ทั้งสี่คนเข้าเรียนม.ปลายที่โรงเรียนคามิยามะ (神山高校) และสังกัดอยู่ชมรมวรรณกรรมคลาสสิก(古典部)


*・゜゚・*:.。..。.:*・☆*:.。..。.:*☆・*:.。. .。.:*・゜゚・*


   สำหรับฉากสุดท้ายที่ว่า สถานการณ์คร่าวๆ เป็นแบบนี้ค่ะ ตลอดทั้งเรื่องที่ผ่านมาแทบไม่มีฉากกุ๊กกิ๊กแบบชัดๆ ระหว่างพระนางเลยค่ะ มีแค่ฉากประชิดเป็นระยะๆ ของจิทันดะที่มีระยะส่วนตัวแคบกว่าชาวบ้าน แต่แทบจะไม่มีการบรรยายว่าโอทาโร่คิดยังไงกับจิทันดะกันแน่ จนมาถึงท้ายเล่มสี่นี่เอง เรียกได้ว่าฉากนี้เป็นฉากที่หวานที่สุดของคู่นี้แล้ว

   ตอนนี้เป็นตอนที่จิทันดะเรียกให้โฮทาโร่ไปช่วยงานของที่บ้าน ระหว่างขากลับเธอก็เล่าให้ฟังว่าตัวเธอเป็นผู้สืบทอดกิจการของตระกูล จิทันดะเป็นตระกูลใหญ่และถือที่นาเป็นบริเวณกว้าง เธอรู้ตัวอยู่แล้วว่าตนมีความรับผิดชอบอะไรและไม่ได้รังเกียจหรือเศร้าใจที่จะต้องทำอย่างนั้น ที่ของเธอไม่ได้สวยงามหรือมีความเป็นไปได้มากนัก แต่เธอก็อยากแนะนำให้เขารู้จักกับมันอยู่ดี

   โอ้โห ชัดกว่านี้ไม่มีแล้ว แน่นอนว่าโฮทาโร่เองก็คงพอจะเข้าใจว่าจิทันดะรู้สึกอย่างไร รวมถึงตัวเขาก็ตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเองเช่นกัน เขาเกือบจะหลุดปากออกไปแล้วว่า "กิจการส่วนที่เธอทำไม่ได้น่ะ ให้ฉันสานต่อแทนมั้ย" แต่สุดท้ายเขากลับไม่ได้พูดออกไป (และทำให้บรรดาพ่อยกแม่ยกสาปส่งกันยกใหญ่) บทสนทนาหลังจากนั้นกลายเป็นพยากรณ์ลมฟ้าอากาศที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่คุยกันก่อนหน้าแต่อย่างใด

   บทสนทนาที่ว่าเป็นอย่างนี้ค่ะ

   ーネタバレ注意ですよ!ー


*・゜゚・*:.。..。.:*・☆*:.。..。.:*☆・*:.。. .。.:*・゜゚・*


   精一杯に無愛想を装い、俺はこう言った。

   「寒くなってきたな」

   しかし千反田は、少し驚いたように目を見開き、それから柔らかく微笑んで、ゆっくりとかぶりを振った。

   「いいえ。もう春です」


*・゜゚・*:.。..。.:*・☆*:.。..。.:*☆・*:.。. .。.:*・゜゚・*

   คำศัพท์

   無愛想を装う : ปั้นหน้าเรียบเฉย พยายามไม่แสดงความรู้สึก

   見開く : เบิกตากว้าง

   かぶりを振る : ส่ายหัว (かぶり เป็นอีกเสียงอ่านของตัว 頭)

http://cdn.blogimage2.crooz.jp/usr/2012/09/22/catribon/ginancat/resource/
smp_thum_1ecd4ea8691c1b2850710bb8933f9d64a5fed28d.jpg

http://kenohito.blog67.fc2.com/blog-entry-1779.html

http://blog-imgs-55.fc2.com/r/o/l/rollingworld/20121217001151a03.jpg
   
   แล้วทั้งสองก็ยิ้มให้กันพร้อมกันเดินไปยังอาทิตย์อัสดงที่งดงาม...

   ...

   ค่ะ มันจบดื้อๆ แบบนี้แหละค่ะ

   พอลองไปหาดูก็พบว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ดูจะชื่นชมว่าเป็นตอนจบที่ดี ซาบซึ้งตราตรึงใจ แต่สำหรับคนต่างชาติอย่างเราแล้ว...ไม่อะ! ไม่เห็นเข้าใจเลยว่ามันโรแมนติกอะไรตรงไหน ยังไม่ได้สารภาพเลยไม่ใช่เรอะ! จะยิ้มเขินกันทำไม!

   ด้วยความข้องใจในจุดนี้ เราเลยตัดสินใจหาความหมายแฝงที่ซ่อนอยู่ในประโยคลมฟ้าอากาศสองประโยคสั้นๆ นี้ว่ากลายเป็นประโยคสารภาพรักไปได้ยังไง


*・゜゚・*:.。..。.:*・☆*:.。..。.:*☆・*:.。. .。.:*・゜゚・*


   คนญี่ปุ่นเองก็พูดถึงความหมายของฉากจบนี้พอสมควรเหมือนกันค่ะ 

   สำหรับประโยคของโฮทาโร่ที่ว่า "อากาศหนาวขึ้นแล้วนะ" อาจมองได้ว่าเป็นการเปลี่ยนเรื่อง โฮทาโร่ที่ตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเองและรู้ว่าถ้าเขาพูดประโยคนั้นออกไปจะเป็นการทำสัญญาหุ้นส่วนตลอดชีวิต ซึ่งจะทำให้หลักประหยัดพลังงานที่ยึดมาโดยตลอดต้องจบสิ้นลง โฮทาโร่ที่ยังลังเลว่าจะสามารถทำอย่างนั้นได้หรือเปล่าจึงยังไม่สามารถให้คำสัญญากับจิทันดะได้

   ทั้งๆ ที่โฮทาโร่พูดว่า "อากาศหนาวขึ้นแล้วนะ" แทนที่จะตอบว่า 「そうですね」หรือ「まだ暖かいですよ」ทำไมถึงได้เลือกตอบว่า "ไม่หรอกค่ะ นี่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว"

   จิทันดะพูดประโยคนี้ด้วยนัยอะไรกันแน่

   ภาษาญี่ปุ่นมีสำนวนที่ว่า 「春が来た」อยู่ค่ะ สามารถแปลได้สามความหมาย ได้แก่

   ① 桜など、春を感じさせるものが姿を現したときに使う。คือความโดยตรงว่า "เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว"

   ② 「春」という人物が来た。อันนี้ก็ความหมายโดยตรง ตร๊ง...ตรงกว่าอันแรกอีก

   ③ 恋をした という意味。มาแล้วค่ะความหมายโดยนัย แปลว่า "มีความรัก" ค่ะ

   แล้วทำไมถึงเปรียบเทียบว่า "ฤดูใบไม้ผลิ" เป็น "ความรัก" ?

   คำตอบส่วนใหญ่บอกว่าฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่ข้ามผ่านความหนาวเหน็บของฤดูหนาวและอบอุ่นขึ้น เป็นช่วงที่ดอกไม้เบ่งบาน ซึ่งความอบอุ่นงดงามเช่นนั้นใกล้เคียงกับความรู้สึกเมื่อ "มีความรัก"

   ในช่วงแรกเมื่อคนเราเริ่มรู้สึกถึงความรักที่มีให้ใครสักคน มันไม่ได้มีเพียงความรู้สึกดีเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ความคาดหวัง การรอคอย เปรียบเหมือนฤดูหนาวที่ยาวนานและทรมาน แต่เมื่อข้ามผ่านความรู้สึกนั้นมาแล้ว สิ่งที่อยู่ภายในก็จะ「芽」ออกมาเป็นดอกไม้ที่สวยงาม

   อื้อหือ...ล้ำลึกเหลือเกิน

   สำนวนนี้สามารถใช้เป็นกริยาได้เลยค่ะ เช่น 「○○くん春が来た♡」หรือ「春が来た女の子」

   ด้วยเหตุดังนี้ ประโยคตอบกลับของจิทันดะจึงอาจไพล่ไปถึงความหมายนี้ก็เป็นได้

   「折木さんに、紹介したかったんです」

   เธอขอร้องให้โฮทาโร่มาช่วยงานของที่บ้านทั้งที่น่าจะขอคนอื่นที่เกี่ยวข้องหรืออยู่ใกล้กว่าได้ นั่นเป็นเพราะเธอตั้งใจจะให้เขาดูว่า "ที่ของเธอ" เป็นอย่างไร เธอจะต้องอยู่ที่นี่ และอยากจะให้เขาอยู่ด้วย นี่คือนัยแฝงที่ทั้งคนอ่านทั้งโฮทาโร่เข้าใจได้ไม่ยาก

   ยิ่งโฮทาโร่ที่สามารถไขปริศนาได้มากมายย่อมเข้าใจอยู่แล้ว

   หากคิดในอีกแง่หนึ่ง ประโยคของโฮทาโร่อาจตีความได้ว่า "สำหรับเขาที่ไม่เคยให้สนใจกับการเรียน กีฬา และความรักมาก่อน ตัวเขาอาจจะยังอยู่ในช่วงของฤดูหนาว สำหรับโฮทาโร่แล้วฤดูใบไม้ผลิของเขาอาจจะยังมาไม่ถึง" ดังนั้นเขาจึงยังไม่สามารถสารภาพรักกับจิทันดะได้เพราะตัวเองก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าความรู้สึกระหว่างพวกเขาทั้งสองคืออะไรกันแน่

   แต่ถึงแม้จะยังไม่ถึงฤดูใบไม้ผลิ แต่เขาก็เริ่มรู้สึกถึงอากาศหนาวแล้ว แปลว่าเขาเองก็รู้สึกถึง "อะไรบางอย่าง" แล้วเหมือนกัน

   นั่นคือคำตอบของโฮทาโร่ "ฉันยังไม่แน่ใจ"

   เมื่อจิทันดะได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย จิทันดะที่คิดเรื่องอนาคตของตัวเองเป็นอย่างดีและสามารถรวบรวมความกล้าบอกไปว่า "อยากจะแนะนำให้รู้จักกับบ้านของตัวเอง" ย่อมไม่มีความลังเลแบบนั้น

   เธอรู้ว่ามันไม่ใช่แค่ความรู้สึกกำกวมของฤดูหนาวอีกต่อไปแล้ว

   นั่นคือคำตอบของจิทันดะ "ฉันว่าฉันแน่ใจค่ะ"

   ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่า もう春です ของจิทันดะหมายถึงแค่ความรู้สึกของเธอ หรือความรู้สึกของทั้งสองคน แต่เอาเป็นว่าประโยคนี้ไม่ได้หมายถึงฤดูใบไม้ผลิหรือคนที่ชื่อฮารุแน่ๆ (ฮา)

   พอมาวิเคราะห์แบบนี้แล้วก็พอจะรู้สึกถึงความโรแมนติคอยู่เหมือนกัน ก็เป็นตอนจบที่สวยงามจริงๆ นั่นแหละ...🌸

   อย่างไรก็ตาม อ.โยเนซาวะก็ได้ตลบหลังทุกคนในเล่มห้าด้วยการให้โฮทาโร่เป็นหวัดในวันต่อมา สรุปว่าที่เขาบอกว่าหนาวนั่น ไม่ว่าจะมีนัยแฝงอะไรหรือไม่ แต่ก็มีความหมายว่าหนาวจริงๆ อยู่ด้วย...อาจ๊ารย์...! เอาความโรแมนติคและการวิเคราะห์ยืดยาวของหนูกลับมา!
   
https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/c1/1e/82/c11e82c93cba0c68c742ec61e81dac8b.jpg
プリム



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น